สร้างธุรกิจด้วยตัวเองก็ว่ายากแล้ว หาสถานที่ทำงานให้เอื้อต่อการพัฒนาธุรกิจและการทำงานที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้ธุรกิจมั่นคงยากยิ่งกว่า ยิ่งต้องตัดสินใจว่าจะเช่าออฟฟิศ หรือซื้อโฮมออฟฟิศเป็นของตนเองเลย แบบไหนจะดีกว่ากัน ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว เพราะจะต้องใช้เงินก้อนจำนวนมาก แต่หากให้ฟันธงลงไปเลย…แน่นอนว่า เราแนะนำให้คุณซื้อ
ทำไมคุณควรซื้อออฟฟิศแทนที่จะเช่าไปเรื่อยๆ? ลองดูเหตุผลเหล่านี้กัน
ราลองมาดูที่การเช่าออฟฟิศกันก่อน การเช่าออฟฟิศคือการไปเช่าอาคารสำนักงานของผู้อื่น โดยจะมีค่ามัดจำ ค่าเช่ารายเดือน รวมถึงค่าน้ำไฟ และค่าส่วนกลางที่จะต้องเสียไป อีกทั้งถึงแม้จะตกแต่งได้ แต่เมื่อเวลาคืนอาคารสำนักงาน ก็อาจจะต้องทุบออก ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ที่สำคัญจะไม่ได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ของอาคารสำนักงานั้นๆ แต่มัข้อดีคือจะมีเจ้าหน้าที่ผู้บริหารจัดการออฟฟิศเช่าให้ และมีความปลอดภัยสูง
สำหรับการซื้อโฮมออฟฟิศ คือการซื้ออาคารสำนักงานที่สามารถพักอาศัยได้ ซึ่งมักจะมีความสูงประมาณ 3-4 ชั้น คล้ายทาวน์โฮม แต่ฟังก์ชันข้างในถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ เช่น การแบ่งสัดส่วนระหว่างพื้นที่ทำงานและพื้นที่พักอาศัย มีการวางระบบเพื่อรองรับการใช้งานคอมพิวเตอร์หรือเครื่องปรับอากาศไว้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก จะมีข้อดีอย่างไรบ้างมาดูกัน
ต่อเติมได้สบาย ไม่กังวลเมื่อต้องเลิกเช่า
หากคุณเป็นผู้เช่า การต่อเติมตกแต่ง หรือรีโนเวทออฟฟิศนั้นยอมต้องมีความระมัดระวังสูง ว่าจะทำให้ออฟฟิศนั้นชำรุดหรือไม่ และต้องใช้เงินเท่าไร ที่สำคัญต้องคำนึงถึงตอนคืนออฟฟิศด้วยว่าจะต้องรื้อถอนอย่างไร ต่างจากการซื้อโฮมออฟฟิศที่สามารถลงทุนกับการตกแต่งหรือรีโนเวทได้อย่างอิสระ เพราะคุณลงทุนไปในพื้นที่ของตนเอง
ประหยัด ลดภาระของเจ้าของธุรกิจ
นอกจากค่าเช่าออฟฟิศที่ต้องเสียรายเดือนแล้ว ยังมีค่าน้ำไฟที่อาจต้องจ่ายเพิ่มจากราคามิเตอร์ และค่าส่วนกลาง เช่น ลิฟท์ เป็นต้น ที่คุณและพนักงานในบริษัทของคุณใช้อย่างไม่คุ้มค่า แต่หากคุณซื้อโฮมออฟฟิศเป็นของตนเอง นอกจากจะประหยัดค่าน้ำค่าไฟแล้ว ค่าส่วนกลางก็ไม่ต้องเสียด้วย
ซื้อ 1 ได้ 2
ออฟฟิศทั่วไป ออกแบบมาเพื่อให้ทำงานเท่านั้น ไม่สามารถใช้เป็นที่พักอาศัยได้ แต่ถ้าคุณซื้อโฮมออฟฟิศคึณจะได้ 2 ฟังก์ชัน คือเป็นทั้งที่ทำงาน และที่พักอาศัยในพื้นที่เดียวกัน ซึ่งไม่เพียงจะช่วยประหยัดเวลาเดินทางให้เจ้าของธุรกิจแล้ว คุณยังสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้ธุรกิจคล่องตัว และก็ยังสามารถพักผ่อนอย่างสบายในคร่าวเดียวกัน
ความคุ้มค่ากว่าในแง่การลงทุน
แน่นอนว่าการเช่า คุณจะไม่ได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในการถือครอบครองโฉนด แต่หากคุณซื้อโฮมออฟฟิศกรรมสิทธิ์อาคารและที่ดินจะตกเป็นของคุณทันที ที่สำคัญที่ดินมักมีราคาสูงขึ้นอย่างเสมอ เพราะฉะนั้นแม้ในตอนนี้จะมีแผนเพียงไว้ประกอบธุรกิจเท่านั้น แต่ในอนาคตคุณอาจต้องการขายหรือปล่อยเช่าเพื่อทำกำไรก็เป็นได้ เพราะนักเศรษฐศาสตร์หลายท่านคาดการณ์ไว้ว่า ราคาจะสูงเกิน 1 ล้านบาท/ ตร.ว. จากเดิมที่มีราคาเพียง 1-2 แสนบาทต่อตารางวา เท่านั้น
เปลี่ยนค่าเช่าเป็นสินทรัพย์
ซีบีอาร์อี ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับสากล เผยผลสำรวจค่าเช่าออฟฟิศในประเทศไทย ในช่วงไตรมาส 1 ปี พ.ศ. 2561 พบว่า ค่าเช่าออฟฟิศเกรดเอ ใจกลางย่านธุรกิจหรือ CBD ของกรุงเทพฯ ปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 3.1 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีราคาเฉลี่ยเดือนละ 998 บาทต่อตารางเมตร. และยังมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เจ้าของธุรกิจเริ่มเปลี่ยนจากเช่าออฟฟิศไปซื้อโฮมออฟฟิศแทนการจ่ายค่าเช่าที่สูงลิ่วในแต่ละเดือน โดยพื้นที่ที่กำลังได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องก็อย่างเช่น ย่านพระราม 9 ซึ่งในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีส้มพาดผ่าน ช่วยเพิ่มความสะดวกในการเดินทางนอกจากทางด่วนพระรามเก้า และ Airport Link อีกด้วย ซึ่งโฮมออฟฟิศหนึ่งที่น่าสนใจ และมีอนาคตที่ดี ก็คือ ALTITUDE PROVE RAMA 9
อัลติจูด พรูฟ พระราม 9 โฮมออฟฟิศของคนยุคใหม่ที่ตอบโจทย์ทั้งไลฟ์สไตล์และความมั่นคงทางธุรกิจ กับโฮมออฟฟิศ 4 ชั้นครึ่ง มี 16 ยูนิต ที่ออกแบบด้วยสไตล์ Modern เล่นรูปลักษณ์ที่เท่และทันสมัย ใช้สีเทาบนตัวอาคาร มีช่องกระจกขนาดใหญ่ ทำให้รู้สึกโล่ง โปร่ง สบาย เอื้อต่อการทำงานเป็นอย่างดี ตามผลสำรวจของนักวิจัยจาก Florida State University ในสหรัฐฯ บอกว่าสภาพแวดล้อมในการทำงานที่อาจส่งผลต่อกระบวนการคิดและการรับรู้ของพนักงานในระยะยาว
ในส่วนของทำเล ต้องบอกว่าตั้งอยู่ในพิกัดที่ดี เพราะตั้งอยู่ย่านธุรกิจกลางกรุง ติดด่านทางด่วนพระราม 9 และใกล้ Airport Link หัวหมากเพียง 700 เมตร เท่านั้น ในราคาเริ่มต้น 16.4 ล้านบาท ถือว่าคุ้มค่า คุ้มราคา คุ้มประสิทธิภาพงาน และสร้างธุรกิจให้มั่นคงได้ไม่ยาก รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก