loader image

“อัลติจูด” ลุยพัฒนาที่อยู่อาศัยแบบไฮจีนิก โฮม และคอมมูนิตี้

“อัลติจูด” ลุยพัฒนาที่อยู่อาศัยแบบไฮจีนิก โฮม และคอมมูนิตี้ เปิดตัวโครงการอัลติจูด ฟอเรส บน 2 ทำเลศักยภาพตอกย้ำทางรอดธุรกิจยุคโควิด-19 ต้องปรับตัวตามผู้บริโภค

“อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์” เผยพฤติกรรมผู้บริโภคหลังยุคโควิด-19 เปลี่ยนแปลงชัดเจน จับมือพันธมิตรธุรกิจ “คีนน์” พัฒนาที่อยู่อาศัยแบบ ไฮจีนิก โฮม และคอมมูนิตี้ (HYGIENIC HOME & COMMUNITY) ในโครงการอัลติจูด ซิมโฟนี เจริญกรุง เป็นโครงการนำร่องในการพัฒนา พร้อมเปิดบ้านเซกเม้นท์ใหม่ “อัลติจูด ฟอเรส” บนสองทำเลศักยภาพ รัชดาภิเษก อารีย์ ที่ใช้หลักจิตวิทยาในการสร้างบ้าน เจาะลึกความต้องการลูกค้าแบบ “ยูนีค” (UNIQUE) มูลค่ารวม 998 ล้านบาท รองรับความต้องการชมบ้านของผู้บริโภคยุค Now Normal ด้วยนวัตกรรมชมบ้านผ่าน REAL LIVE 720 องศา ได้ทุกโครงการของอัลติจูด เตรียมปิดยอดขายสิ้นปี 2,015 ล้านบาท

นายชยพล หรรรุ่งโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภายใต้แบรนด์ ‘ALTITUDE’ เปิดเผยว่า 1 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันพฤติกรรมผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้ปรับเปลี่ยนและเรียนรู้วิถีชีวิตแบบนาว์นอร์มอล (NOW NORMAL) มีผลกระทบมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการผันเปลี่ยนเข้าสู่ยุคดิจิทัล ทำให้ผู้คนนิยมอยู่อาศัยในบ้านมากขึ้น และออกจากบ้านน้อยลง เพื่อลดความเสี่ยง บริษัทฯ เล็งเห็นจุดเปลี่ยนสำคัญนี้จึงพัฒนาบ้าน ไฮจีนิก โฮม และคอมมูนิตี้ (HYGIENIC HOME & COMMUNITY) บ้านแห่งอนาคตเพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยที่ปลอดภัยมากกว่าเดิมสำหรับทุกคน ภายใต้แนวคิด EVERYONE CAN SAFE AT HOME โดยร่วมมือกับบริษัท คีนน์ ผู้นำนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม พัฒนานวัตกรรม ไฮจินิก โฮม ที่มีชื่อเสียงระดับโลกด้วยรางวัลเกียรติยศโดดเด่นในระดับอาเซียน โดยให้ อัลติจูด ซิมโฟนี เจริญกรุง เป็นโครงการนำร่องในการพัฒนา และนำไปใช้กับทุกโครงการที่กำลังก่อสร้าง

ด้านการพัฒนาโครงการเตรียมเปิดเซกเมนต์ใหม่ล่าสุด 2 โครงการ คือ อัลติจูด ฟอเรสต์ รัชดา พรีเมียมทาวน์โฮม จำนวน 39 ยูนิต มูลค่าเริ่มต้น 15 ล้านบาท และ อัลติจูด ฟอเรสต์ อารีย์-โมนูเมนต์ บ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่ เพียง 10 ยูนิต มูลค่าเริ่มต้น 28 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่หาได้ยากบนทำเลอารีย์ และเป็นโครงการใหม่บนทำเลศักยภาพใจกลางเมือง รวมมูลค่าทั้ง 2 โครงการ 998 ล้านบาท

คอนเซ็ปท์การออกแบบโครงการใช้หลักจิตวิทยาในการสร้างบ้าน เพื่อเจาะลูกค้ากลุ่ม “ยูนีค” (UNIQUE) ทั้ง 2 โครงการได้ผสาน 2 แนวคิดหลักที่เป็นคอนเซ็ปท์ ในการออกแบบโครงการเพื่อตอบโจทย์ความเป็นเอกลักษณ์ของผู้อยู่อาศัย และให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในทุกแง่มุมของการใช้ชีวิต 1.MIND-SPACE พื้นที่ว่างเปล่า “พื้นที่ที่ให้ทุกวินาทีมีความหมาย” ให้คุณเติมเต็มด้วยจิตใจและเป็นตัวเองมากที่สุด 2.พร้อมด้วยเทคโนโลยี GREENERY SPHERE เทคโนโลยีสะอาดหมุนเวียน พร้อมด้วยเทคโนโลยีความสะอาดหมุนเวียน นวัตกรรมไฮจีนิกโฮม (HYGIENIC HOME) อีกทั้งเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกอีกมากมาย เพื่อการอยู่อาศัยที่ยั่งยืน ซึ่งมาพร้อมส่วนกลางที่เต็มอิ่มกับความสงบ โดยบ้านต้นไม้ที่ดีไซน์ด้วยกระจกทั้งหลังโอบล้อมต้นไม้ใหญ่ ดีไซน์ของบ้านที่ออกแบบมาอย่างเข้าใจทั้งทิศทางลม และการรับแสงแดดเป็นอย่างดี เป็นพื้นที่ที่ให้ลูกบ้านได้มาทำกิจกรรมร่วมกันในระยะยาว

 “จากความสำเร็จของ อัลติจูด คราฟ บางนา ซึ่งยอดขายแรงต่อเนื่องจากปลายปีที่ผ่านมา สร้างยอดขายในปัจจุบัน ณ สิ้นไตรมาส 1/64 รวมทั้งสิ้น 540 ล้านบาท พร้อมปิดโครงการโฮมออฟฟิศ พรูฟ พระราม 9 และบ้านเดี่ยวสุดหรู อัลติจูด มาสเตอรี่ พหลโยธิน 24 โดยโปรเจคที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและพร้อมอยู่พร้อมโอน 5 โครงการปลายปีนี้ ได้แก่ อัลติจูด พรูฟ สาทร,อัลติจูด ซิมโฟนี เจริญกรุง, อัลติจูด สาทร-ท่าพระ, อัลติจูด คราฟ บางนา ทาวน์โฮม และอัลติจูด มาสเตอรี สุขุมวิท คาดว่าจะปิดยอดขายปลายปีนี้ให้ได้ตามเป้าหมาย 2,015 ล้านบาท” นายชยพล กล่าว

นอกจากนั้น เพื่อตอบรับสถานการณ์ในปัจจุบันที่โลกเกิดวิกฤตการระบาดของไวรัสตั้งแต่ปีที่ผ่านมา อัลติจูดได้ปรับกลยุทธ์การขายวิถีใหม่ ‘REAL LIVE 720 DEGREE’ หรือ นวัตกรรมเรียลไลฟ์ 720 องศา ภายใต้แนวคิด ANYONE CAN BUY ANYWHERE & ANYTIME ซึ่งเป็นนวัตกรรมเยี่ยมชมโครงการที่สามารถสัมผัสประสบการณ์เสมือนจริง 720 องศา ทั้งการชมบ้านตัวอย่าง ชมส่วนกลางเสมือนจริงได้รอบทิศทาง และสามารถทำ POP UP SPACE ออกแบบบ้านตามไลฟ์สไตล์ที่ชอบด้วยตัวเอง นับเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ของรูปแบบการขายให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ที่เหนือกว่าของการซื้อที่อยู่อาศัย

โดยนำร่องนวัตกรรมชมบ้านแบบเรียลไลฟ์ 720 องศา กับแบรนด์น้องใหม่ ‘อัลติจูด คราฟ บางนา (PREMUIM AFFORDABLE TOWNHOME)  ซึ่งเปิดตัวเมื่อช่วงปลายปี 2563 ถือว่าประสบความสำเร็จในการขายก่อนเปิดโครงการจริง (EARLY BIRD) ด้วยยอดขายต่อเนื่องถึงปัจจุบันกว่า 540 ล้านบาท พร้อม SOLD OUT จำนวน 125 ยูนิต ซึ่งเป็นการขายคละแบบบ้าน 3 แบบ จากทั้งหมด 402  ยูนิต ในโครงการ โดยมีมูลค่าโครงการรวม 1,469 ล้านบาท และเตรียมนำนวัตกรรมนี้ไปใช้กับทุกโครงการที่จะเปิดใหม่

นายขวัญชัย เจริญยิ่งถาวรชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า จากการดำเนินธุรกิจด้วยกลยุทธ์ TURNKEY ASSET DEVELOPMENT ตั้งแต่ต้นปี 2563 เป็นต้นมา และใช้แนวคิด “CUSTOMIZE LIVING” ผ่านการสร้างโปรดักส์ เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นและดีไซน์ ให้เหมาะกับชีวิตที่สุด และช่วยให้นักลงทุนเพิ่มศักยภาพของสินทรัพย์ได้ จึงทำให้อัลติจูดประสบความสำเร็จในการสร้างยอดขายจากการรุกตลาดคอนโดและพรีเมียมทาวน์โฮม ล่าสุดเพื่อเสริมความแข็งแกร่งและวางเป้าหมายครอบคลุมทุกเซกเมนต์มากยิ่งขึ้น อัลติจูดจึงมีแผนรุกตลาดบ้านเดี่ยว และทาวน์โฮมในระดับราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งเป็นระดับราคาที่มีดีมานต์ในตลาด และมีศักยภาพในการซื้อเห็นได้จากความสำเร็จจากการปิดขายโฮมออฟฟิศอย่าง อัลติจูด พรูฟ พระราม 9 ในระดับราคา 13.9-17.9 ล้านบาท และบ้านเดี่ยว อัลติจูด มาสเตอรี่ พหลโยธิน ในระดับราคา 28 ล้านบาท

“ในปีนี้เป็นปีของตลาดของลูกค้าซื้ออยู่เอง โดยเฉพาะในเซกเมนต์ระดับบนราคาที่ผู้ซื้อมีศักยภาพตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป นับเป็นที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์การซื้อเพื่ออยู่อาศัยอย่างแท้จริง อัลติจูดเชื่อมั่นว่า จากจุดเด่นและความแข็งแกร่งในการลด Pain Point และการช่วยลดต้นทุนการใช้ชีวิต ทั้งหมดมาจากความเข้าใจถึงความต้องการลูกค้าอย่างแท้จริงจนพัฒนาสินค้าได้อย่างตรงจุด สู่การออกแบบที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยได้จริง” นายขวัญชัย กล่าวปิดท้าย  

แชร์

เรื่องราวเพิ่มเติมที่คุณอาจสนใจ

อัลติจูดส่งต่อความห่วงใย "มอบวัคซีนโมเดอร์นา" ให้กับลูกบ้าน

อัลติจูดส่งต่อความห่วงใย “มอบวัคซีนโมเดอร์นา” ให้กับลูกบ้าน

“อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์” ร่วมกับ “โรงพยาบาลวิภาวดี” ส่งมอบความห่วงใยให้กับลูกบ้านอัลติจูดคนพิเศษ ผ่านแคมเปญ F1RST CARE To get it all “อัลติจูดห่วงใย..ปลอดภัยโควิดไปด้วยกัน”    เมื่อวันที่ 3-4 ส.ค.ที่ ผ่านมา ณ โรงพยาบาลวิภาวดี อัลติจูดมอบวัคซีนทางเลือกโมเดอร์นา จำนวน 220 โดส พร้อมกับ “ถุงห่วงใย” ประกอบไปด้วยหน้ากากอนามัยเเละสเปรย์แอลกอฮอล์ ให้แก่ลูกบ้านที่เข้าร่วมรับวัคซีน โดยมีเจ้าหน้าที่พยาบาลของศูนย์สุขภาพและอาชีวอนามัย คอยอำนวยความสะดวกในการฉีดวัคซีน กิจกรรมในครั้งนี้ เกิดขึ้นจากความตั้งใจภายใต้แนวคิด THE F1RST EXPERIENCE OF LIVING เราจึงมุ่งส่งต่อความห่วงใย ความปลอดภัย และเสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้แก่ลูกบ้านให้มีภูมิคุ้มกันที่เเข็งแรง โดยหวังเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเเบ่งเบาสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ของประเทศ พร้อมทั้งเสริมสร้างความมั่นใจและความอุ่นใจให้แก่ลูกบ้าน ให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข และก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปพร้อมกัน

อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ ร่วมทุน ครีท กรุ๊ป จากญี่ปุ่น

อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ ร่วมทุน ครีท กรุ๊ป จากญี่ปุ่น

เปิดตัว “อัลติจูด ยูนิคอร์น สาทร-ท่าพระ” คอนโดมิเนียมไฮไรส์ทำเลตลาดพลู เจาะตลาดมิลเลนเนียล และนักธุรกิจรุ่นใหม่ อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ ประกาศแผนร่วมทุนกับครีท กรุ๊ป (Creed Group) พันธมิตรใหม่จากญี่ปุ่น เสริมศักยภาพธุรกิจ นำร่องพัฒนาโครงการแฟล็กชิพ “อัลติจูด ยูนิคอร์น สาทร-ท่าพระ” มูลค่า 2,400 ล้านบาท คอนโดมิเนียมไฮไรส์บนทำเลศักยภาพตลาดพลู ทำเลทองแห่งใหม่ ชูจุดขายติดรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีตลาดพลู 0 เมตร ศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ใกล้ CBDs รองรับการขยายตัวของโครงข่ายรถไฟฟ้าสายสีเขียว มุ่งเจาะกลุ่มมิลเลนเนียลและนักธุรกิจรุ่นใหม่ ราคาเริ่มต้นเพียง 2.19 ล้านบาท นายชยพล หรรรุ่งโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยถึงแนวทางการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทว่า “บริษัทยังคงเดินหน้าไปตามยุทธศาสตร์หลักที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนพัฒนาโครงการบนที่ดินทำเลดี ใจกลางเมือง และไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้า ซึ่งจากผลงานที่ผ่านมาและแผนการขยายงานในอนาคตจะยังคงยึดในแนวทางนี้เป็นหลัก โดยอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่จะทำให้บริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดดมาจากการทำงานร่วมกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญในวงการอสังหาริมทรัพย์ในเวทีระดับโลก” ทั้งนี้ บริษัทได้ร่วมทุน (Joint Venture Agreement) กับ ครีท กรุ๊ป (Creed Group) บริษัทที่มากประสบการณ์การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์จากญี่ปุ่น และพัฒนาผลงานที่เติบโตอย่างมากตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมาทั้งในญี่ปุ่น และภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ มาเลเซีย กัมพูชา เวียดนาม เมียนมา อินโดนีเซีย สปป.ลาว และบังคลาเทศ นับเป็นมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม (GDV) แล้วกว่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้ง ยังมีแนวทางขยายการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างต่อเนื่อง โดยที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไทยเป็นตลาดเป้าหมายที่สำคัญ   “การทำงานร่วมกันครั้งนี้ เชื่อว่าจะเป็นการเปิดมิติการลงทุน และการขยายธุรกิจ ที่อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ และ ครีท กรุ๊ป มองถึงการเติบโตที่เดินหน้าไปพร้อมกัน ทั้งการเพิ่มมูลค่าให้กับการพัฒนาโครงการอสังหาฯของบริษัทเอง และการผลักดันรายได้และกำไรให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต” นายชยพล กล่าว มิสเตอร์โตชิฮิโกะ มูเนโยชิ ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ ครีท กรุ๊ป เปิดเผยว่า “เราประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในหลายประเทศ และประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญของภูมิภาค เรามุ่งเน้นลงทุนโครงการคอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยมในทำเลที่กำลังมาแรง และต้องเป็นโครงการที่น่าสนใจและมอบสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ซึ่งโครงการ อัลติจูด ยูนิคอร์น สาทร-ท่าพระ นั้นตอบโจทย์และเป็นโครงการร่วมทุนแรกกับอัลติจูดดีเวลลอปเม้นท์ในประเทศไทย” ความร่วมมือครั้งนี้ จะเป็นรูปแบบการร่วมลงทุนพัฒนาโครงการ โดยจัดตั้งบริษัทร่วมทุนคือ บริษัท อัลติจูด ครีท ตลาดพลู จำกัด โดยอัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ถือหุ้น 51%  และ ครีท กรุ๊ป ถือหุ้น 49% นำร่องพัฒนาโครงการแรกคือ โครงการ “อัลติจูด ยูนิคอร์น สาทร-ท่าพระ” นับเป็นโปรดักส์ไฮไลท์ที่พัฒนาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดและสอดรับกับการขยายตัวของเมืองกับเส้นทางรถไฟฟ้า อีกทั้งจากศักยภาพของทำเลที่ตั้งโครงการ ทำให้การแข่งขันในโซนนี้เริ่มคึกคักมากขึ้น สำหรับโครงการ “อัลติจูด ยูนิคอร์น สาทร-ท่าพระ” มีมูลค่าโครงการ 2,400 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียมไฮไรส์ สูง 34 ชั้น อยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ตลาดพลู โดยจะมีการสร้างสะพานที่เชื่อมติดกับสถานีรถไฟฟ้าตลาดพลู ห่างเพียง 0 เมตร บนที่ดินกว่า 2 ไร่  จำนวน 711 ยูนิต ขนาดห้องมี 3 รูปแบบด้วยกัน  ได้แก่ One Bedroom เนื้อที่ 23.64 – 34.56 ตร.ม., One Bedroom Plus เนื้อที่ 36.98 – 45.18 ตร.ม. Loft One Plus One Bedroom เนื้อที่ 39.08 – 69.28  ตร.ม. ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 2.19 ล้านบาท โดยจะเริ่มก่อสร้างในช่วงไตรมาส 3 ปี 2562 และคาดการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3 ปี 2564 นายขวัญชัย ยิ่งเจริญถาวรชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า “โครงการอัลติจูด ยูนิคอร์น สาทร-ท่าพระ นับเป็นคอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพตลาดพลู ย่านนิว ซีบีดี แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ และเป็นโครงการแฟล็กชิพอีกหนึ่งแรงบันดาลใจที่จะมาสร้างมุมมองใหม่และวิถีชีวิตที่แตกต่างให้กับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการที่อยู่อาศัยใกล้ CBDs อาทิ สยาม สีลม สาทร ความโดดเด่นของทำเลตลาดพลูที่มากไปกว่านั้น คือเรื่องของความสะดวกสบายในการเดินทาง มีการเชื่อมต่อการเดินทางที่หลากหลายสู่ศูนย์กลางธุรกิจ ทั้งรถยนต์ส่วนบุคคล และยังมีสถานีรถไฟฟ้า อีกทั้งไม่ไกลจากพื้นที่ศูนย์กลางธุรกิจสีลมและสยามมากนัก” อัลติจูด ยูนิคอร์น ออกแบบที่อยู่อาศัยภายใต้แนวคิดพัฒนาพื้นที่เรสซิเดนซ์ที่ให้ผู้อยู่อาศัยสามารถพักผ่อนอย่างแท้จริงและสร้างพลังบวก โดยโครงการฯ ได้มีการออกแบบทันสมัยพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอันโดดเด่น และมุ่งเน้นเรื่องของ co-creation เป็นหัวใจสำคัญ ซึ่งเหมาะกับกลุ่มมิลเลนเนียล สตาร์ทอัพ นักธุรกิจรุ่นใหม่ผู้ที่ต้องการประสบความสำเร็จในทั้งชีวิตส่วนตัวและธุรกิจตามที่ตนเองต้องการ ในด้านการออกแบบภายในโครงการ อัลติจูด ยูนิคอร์น สาทร-ท่าพระ ได้ออกแบบสังคมการอยู่อาศัยที่เน้นความทันสมัยและความสะดวกสบายครบครัน ประกอบด้วย พื้นที่ส่วนกลาง (Hard Facility)  Intimate Lobby, Reception & Service Bar, Co-working Space, Co-kitchen, Fitness และ Grand Swimming Pool ที่แตกต่างกว่านั้นเป็นพื้นที่ Reception & Service Bar ออกแบบตกแต่งร้านโดยฟาลาเบลล่า (Fallabella) ร้านอาหารกึ่งผับชื่อดัง ให้เป็นที่นัดพบและลิ้มรสกาแฟด้วยรูปแบบ Coffee Corner ในตอนกลางวัน แล้วเปลี่ยนเป็นบาร์ยามค่ำคืน “ด้วยแนวคิดการพัฒนาที่อยู่อาศัยของบริษัทที่มุ่งตอบโจทย์กลุ่มคนยุคมิลเลนเนียล ในเซ็กเมนต์ระดับ Medium Class ในทำเลศักยภาพตามโครงข่ายคมนาคม โครงการ อัลติจูด ยูนิคอร์นฯ ตอบโจทย์ทั้งความสะดวกสบายในการเดินทาง โอกาสการเติบโตที่มากขึ้นในอนาคตในด้านมูลค่าการลงทุนจากการขยายตัวของเมืองตามแนวรถไฟฟ้า โดยอยู่ติดกับสถานี BTS ตลาดพลู สายสีเขียว (สายสีลม) ที่เดินทางเข้าเมืองไปยังอีกหลายสถานี เช่น สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ (หน้าศูนย์การค้า MBK) ผ่านสถานีสยาม ราชดำริ สีลม จากนั้นเป็น สาทร สะพานตากสิน แล้วตัดกับถนนรัชดาภิเษกที่สถานีตลาดพลู ที่วันนี้มีการขยายเส้นทางที่บริเวณถนนราชพฤกษ์ตัดกับถนนเพชรเกษม (สถานีบางหว้า) รวมทั้งโครงข่ายในอนาคตที่จะขยายต่อไปยังตลิ่งชันได้ ในอีกด้านก็สามารถเดินทางเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินได้ที่สถานีบางหว้า” นายขวัญชัย กล่าวเพิ่มเติม นอกจากนี้ เมื่อมองถึงศักยภาพโดยรอบของแหล่งที่ตั้งโครงการในย่านสถานี BTS ตลาดพลู มีทั้งห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์ ท่าพระ ย่านของอร่อยชื่อดัง แหล่งท่องเที่ยวท้องถิ่น เช่น วัดสำคัญ ๆ  ไม่ไกลนักจากแลนด์มาร์คแหล่งชอปปิ้งแห่งใหม่ของย่านนี้ก็คือ ไอคอนสยาม เกี่ยวกับ อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ ก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ. 2557 โดยนายชยพล หรรรุ่งโรจน์ และ นายขวัญชัย ยิ่งเจริญถาวรชัย อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ สร้างสรรค์และพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งเน้นตอบรับไลฟ์สไตล์ การออกแบบที่โดดเด่นและทันสมัย สอดคล้องกับทำเลศักยภาพต่างๆ สำหรับผลงานที่ผ่านมาได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียมไฮเอนด์ ‘อัลติจูด สามย่าน-สีลม’, อัลติจูด ดีไฟน์, อัลติจูด ซิมโฟนี, แบรนด์บ้านซูเปอร์ลักชัวรี่ ‘อัลติจูด มาสเตอรี’ และ ‘อัลติจูด พรูฟ’ แบรนด์โฮมออฟฟิศระดับพรีเมี่ยม เกี่ยวกับครีท กรุ๊ป (Creed Group) ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2539 ครีท กรุ๊ป เป็นบริษัทลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มากประสบการณ์ในญี่ปุ่น โดยบริษัทมีทั้งโครงการที่เป็นการลงทุนทางด้านอสังหาริมทรัพย์, การพัฒนาโครงการ, การบริหารจัดการ และการจัดการสินทรัพย์ ครีท กรุ๊ป ได้มีการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีการเติบโตออย่าง มาเลเซีย, กัมพูชา, เวียดนาม, เมียนมา, อินโดนีเซีย, สปป.ลาว และ บังคลาเทศ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 และปัจจุบันมีมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม (GDV) แล้วกว่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งบริษัทมีความสนใจตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเน้นร่วมลงทุนกับบริษัทผู้นำในตลาดนั้นๆ www.creed-group.com

ประมวลภาพความสำเร็จ กับงานเสวนา “สร้างโอกาสทางธุรกิจในอสังหาฯ ไทย ต่อยอดและแปลงเป็นทุนอย่างไรให้คุ้มค่า”

ประมวลภาพความสำเร็จ กับงานเสวนา “สร้างโอกาสทางธุรกิจในอสังหาฯ ไทย ต่อยอดและแปลงเป็นทุนอย่างไรให้คุ้มค่า”

ผ่านไปเป็นที่เรียบร้อย ครั้งแรก และที่เดียว กับการพบกันของสุดยอดนักธุรกิจที่มาร่วมกันเจาะลึกในหัวข้อ “สร้างโอกาสทางธุรกิจในอสังหาฯ ไทย ต่อยอดและแปลงเป็นทุนอย่างไรให้คุ้มค่า” ร่วมเสวนาโดยคุณชยพล หรรรุ่งโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และคุณเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ ประธานสายธุรกิจรายย่อย บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ผนึกกำลังกันถ่ายทอดหลากหลายมุมคิด ไอเดียการปรับกลยุทธ์ เรียนรู้ภาพรวมราคา การเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย มองเห็นผลตอบแทนและโอกาสในการลงทุนของอสังหาฯ ที่มีอยู่ในมือ เทคนิคการเปลี่ยนเป็นรายได้หรือแปลงเป็นทุนอย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด พร้อมวิเคราะห์กองทุนอสังหาริมทรัพย์และ REITs ที่น่าจับตา สัมมนาครั้งนี้ได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากแขกผู้มีเกียรติ และแน่นอน Moderator อย่างคุณก้อง อรรฆรัตน์ นิติพน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มัชรูม กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและผู้ดำเนินรายการอายุน้อยร้อยล้าน งานจัดขึ้นที่ Mushroom Ministry Studio แหล่งการเรียนรู้ ใครที่พลาดไป เร็วๆ นี้จะมีสรุป Highlight เนื้อหาการสอนมาให้ได้ติดตามกันแน่นอนทางเพจอายุน้อยร้อยล้าน และ www.ryounoi100lan.com

Message us